แทงบอลออนไลน์เล่นยังไง มีรูปแบบไหนบ้าง?

“การเดิมพัน” ถือเป็นสีสันอย่างหนึ่งของเกมกีฬาที่จะช่วยเพิ่มรสชาติและความเมามันของการแข่งขันให้ทวีความสนุกมากยิ่งขึ้นอีกหลายเท่า ด้วยเหตุนี้จึงทำให้จำนวนผู้ที่สนใจการเดิมพันกีฬาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและในเวลาไม่นานก็นิยมเล่นกันไปทั่วโลก อย่างไรก็ตามถ้าหากจะพูดถึงเกมกีฬาที่นิยมนำมาเดิมพันกันมากที่สุดก็คือจะหนีไม่พ้นการพนันฟุตบอล ด้วยว่าฟุตบอลคือกีฬาที่มีแฟน ๆ มากที่สุดในโลก จึงทำให้การพนันบอลได้รับความนิยมตามไปด้วย 

ไม่เพียงเท่านั้นในปัจจุบันยังมีการพัฒนารูปแบบของการเดิมพันฟุตบอลหรือการแทงบอลแบบเดิม ๆ ให้กลายเป็นการแทงบอลออนไลน์ ซึ่งช่วยเพิ่มความสะดวกสบาย และง่ายต่อการเข้าถึงมากยิ่งขึ้น ว่าแล้ววันนี้เราก็จะพาทุกท่านไปรู้จักกับการแทงบอลออนไลน์ ว่าการแทงบอลออนไลน์คืออะไร และมีวิธีเล่นอย่างไร และมีการพนันกันในรูปแบบไหนบ้างถ้าใครอยากรู้ก็ตามมาดูกันได้เลย

การแทงบอลออนไลน์คืออะไร?

การเดิมพันฟุตบอลหรือการแทงบอลออนไลน์ คือการเดิมพันผลการแข่งขันฟุตบอลในรูปแบบต่าง ๆ ผ่านทางเว็บไซต์หรือแอพพลิเคชั่นสำหรับเดิมพัน โดยการพนันฟุตบอลส่วนใหญ่จะยึดตามเวลาและผลการแข่งขันที่เกิดขึ้นจริง ๆ แต่ในปัจจุบันจะมีการเดิมพันฟุตบอลเสมือนจริงที่เป็นการจำลองการแข่งขันขึ้นมาอีกด้วย

ขั้นตอนและวิธีการแทงบอลออนไลน์ 

สำหรับขั้นตอนและวิธีการแทงบอลออนไลน์จะมีอยู่ด้วยกัน 5 ขั้นตอนดังนี้

ขั้นตอนที่ 1.เลือกว่าจะแทงบอลเต็งหรือบอลสเต็ป

ขั้นตอนแรกเป็นการเลือกว่าเราจะแทงบอลเต็งหรือบอลสเต็ปซึ่ง การแทงบอลทั้ง 2 ประเภทมีความแตกต่างกันดังนี้

-การแทงบอลเต็งคือ การแทงบอลเพียงแค่คู่เดียวในรอบการแทง ซึ่งการแทงบอลแบบนี้จะมีโอกาสทายถูกได้ง่าย แต่รางวัลที่ได้ก็จะน้อยกว่าการแทงบอลสเต็ปซึ่งเป็นการแทงบอลทีเดียวหลาย ๆ คู่ในรอบการแทง อย่างไรก็ตามการแทงบอลเต็งเป็นการแทงบอลที่เหมาะกับมือใหม่ที่พึ่งหัดเล่นพนันบอลออนไลน์

- การแทงบอลสเต็ป หรือที่หลาย ๆ คนเรียกว่าบอลชุด คือการแทงบอลทีเดียวหลาย ๆ คู่ ตั้งแต่ 2-3 คู่ขึ้นไป(แล้วแต่เว็บไซต์ที่คุณใช้บริการ)ซึ่งการแทงบอลประเภทนี้จะค่อนข้างยากเพราะคุณจำเป็นจะต้องทายให้ถูกครบทุกคู่ ถ้าหากพลาดไปแม้แต่คู่เดียวก็จะไม่ได้เงินอย่างไรก็ตามแน่นอนว่าความเสี่ยงที่สูงก็ย่อมต้องมาพร้อมรางวัลมหาศาล เพราะถ้าหากคุณสามารถแทงบอลสเต็ปเข้าทุกคู่ คุณจะได้รางวัลเป็นอัตราต่อรองของบอลทุกคู่ที่แทงคูณกันเลยทีเดียว

ขั้นตอนที่ 2.เลือกคู่บอลที่ต้องการแทง

หลังจากที่เลือกว่าจะแทงบอลเต็งหรือบอลสเต็ปไปแล้วขั้นตอนต่อมาก็คือเลือกว่าคุณอยากจะ แทงบอลคู่ไหน ทีมไหน ลีกอะไร (ถ้าแทงบอลสเต็ปก็จะต้องเลือกมากกว่า 1 คู่)

ขั้นตอนที่ 3.  เลือกช่วงเวลาการแข่งขัน

ในการแทงบอลออนไลน์เราไม่จำเป็นจะต้องแทงการแข่งขันแบบเต็มเวลาเพียงอย่างเดียว แต่สามารถเลือกแทง แค่เฉพาะครึ่งแรก หรือครึ่งหลังได้ด้วย โดยถ้าหากบอลคู่ที่เราแทงยังไม่เตะเราจะเลือกช่วงเวลาไหนก็ได้ แต่ถ้าหากบอลเตะไปแล้วบางเว็บจะให้เลือกแทงได้แค่เฉพาะครึ่งหลังเท่านั้น

ขั้นตอนที่ 4. เลือกว่าจะแทงบอลรูปแบบไหน

เมื่อเลือกช่วงเวลาการแข่งขันเสร็จแล้ว ต่อมาก็คือเลือกว่าจะแทงบอลรูปแบบไหน ซึ่งจะมีด้วยกันหลายวิธี ดังนี้

- การแทงบอลแบบแฮนดิแคป(HDP) 

เป็นการแทงบอลที่จะมีการกำหนดราคาบอลขึ้นมาเป็นอัตราต่อรอง ให้ทีมต่อต้องยิงประตูให้ได้ตามจำนวนลูกต่อที่กำหนดเอาไว้ และทีมรองก็ต้องโดนยิงให้น้อยกว่าลูกต่อที่กำหนดเอาไว้เช่นกัน โดยถ้าหากเรายิ่งเลือกแทงลูกต่อเยอะเท่าไหร่ราคาค่าน้ำก็จะยิ่งดีมากขึ้นเท่านั้นเช่น 

ถ้าเว็บกำหนดราคาบอลไว้ที่ 0.5 หมายถึง ครึ่งลูก ถ้าแทงทีมต่อ ทีมต่อต้องชนะเท่านั้นถึงจะได้เงินถ้าเสมอหรือแพ้ก็เสีย แต่ถ้าแทงทีมรองทีมรองต้องชนะถึงจะได้เงิน แต่ถ้าเสมอก็หายกันไป

0.5-1 หมายถึง ครึ่งควบลูก ถ้าทีมต่อชนะ 1 ลูก ได้เงินครึ่งนึงถ้าชนะห่าง 2 ลูกขึ้นไปได้เต็ม ส่วนทีมรอง แพ้ 1 ลูก ได้เงินครึ่งนึง แพ้ห่าง 2 ลูกขึ้นไปเสียเต็ม ถ้าเสมอทีมต่อเสียเต็มทีมรองได้เต็ม

1.0 หมายถึง 1 ลูก ทีมต่อจะต้องชนะห่าง 2 ลูกขึ้นไปถึงจะได้เงิน ถ้าชนะห่างแค่ 1 ลูกจะถือว่าหายกันไป แต่ถ้าทีมต่อแพ้หรือเสมอจะเสียเงิน หรือถ้าแทงทีมรองก็ต้องไม่โดนยิงเกิน 2 ลูกถึงจะได้เงิน

- การแทงบอลแบบคู่-คี่ 

การแทงบอลแบบคู่คี่ เป็นการนับรวมคะแนนของทั้ง 2 ทีม ตอนจบการแข่งขัน หรือจบครึ่ง ว่าผลคะแนนจะออกมาเป็น “คู่” หรือ “คี่” ซึ่งโดยส่วนมากแล้วราคาค่าน้ำของทั้ง คู่และคี่ มักจะเท่ากัน

- การแทงบอลแบบสูง-ต่ำ

การแทงบอลแบบสูงต่ำ จะเป็นการทายว่าผลรวมคะแนนของทั้ง 2 ทีม ตอนจบการแข่งขัน หรือเฉพาะครึ่งแรกกับครึ่งหลัง ว่าจะ สูงกว่า หรือ ต่ำกว่าจำนวนลูกที่เว็บไซต์กำหนดเอาไว้ ตัวอย่างเช่น ถ้าเว็บกำหนดลูกต่อไว้ที่ 5 ลูก หมายความว่าถ้าตอนจบเกมผลรวมลูกยิงของทั้ง 2 ทีม สูงกว่า 5 ลูกแปลว่าผลออกเป็น “สูง” แต่ถ้าต่ำกว่า 5 ลูก ก็คือผลออกเป็น “ต่ำ”  โดยราคาค่าน้ำก็จะขึ้นลงตามความยากของลูกที่ต่อด้วย

- การแทงบอลแบบ แพ้ ชนะ เสมอ

การแทงบอลแบบ แพ้ ชนะ เสมอเป็นการทายผลแบบตรง ๆ เลยว่า ถ้าหากทีม A แข่งกับ ทีม B แล้วใครจะชนะ หรือทั้งสองทีมจะเสมอกัน ซึ่งการแทงบอลรูปแบบนี้ค่อนข้างทายถูกได้ง่าย จึงมีคนนิยมนำมาแทงบอลสเต็ปกันเยอะนั่นเอง 

- การแทงบอลมุม 

เป็นการแทงผลของการเตะมุม ซึ่งจะเดิมพันได้หลายรูปแบบ เช่น ทายว่าทีมไหนจะได้เตะมุมมากกว่ากัน, ทายว่าลูกเตะมุมรวมทั้งหมดจะได้มากหรือน้อยกว่าจำนวนที่ทางเว็บไซต์กำหนด, หรือทางว่าจำนวนลูกเตะมุมจะออกมาเป็นคู่หรือคี่ เป็นต้น

- การแทงใบเหลืองใบแดง

เป็นการแทงว่าตลอดการแข่งขัน หรือเฉพาะช่วงครึ่งแรกและครึ่งหลัง จะมีการโดนใบเหลือใบแดง มากหรือน้อยกว่าที่เว็บกำหนดไว้ เช่น ถ้าหากเว็บกำหนดใบแดงไว้ที่ 1 ใบ คุณก็ต้องเลือกว่าจะแทงใบแดง  สูง หรือ ต่ำ กว่าที่เว็บกำหนด โดยการแทงบอลรูปแบบนี้ไม่เป็นที่นิยมซักเท่าไหร่ จะมีให้เห็นก็ในเว็บแทงบอลเว็บใหญ่ ๆ ไม่กี่เว็บเท่านั้น

- การแทงบอลแชมป์

เป็นการแทงบอลระยะยาวในช่วงตอนเปิดฤดูกาลของแต่ละลีก โดยบางเว็บไซต์จะเปิดให้นักเสี่ยงโชคเข้ามาแทงว่า ในฤดูกาลนั้น ๆ ทีมใดในลีกที่คุณเลือกจะได้แชมป์ โดยยิ่งคุณเลือกแทงทีมเล็ก หรือทีมที่รั้งอันดับท้ายในฤดูกาลที่แล้วราคาค่าน้ำที่ได้ก็จะยิ่งสูง แต่ถ้าหากคุณเลือกแทงทีมเต็งแชมป์ หรือแทงแชมป์เก่าราคาค่าน้ำก็จะยิ่งน้อยนั่นเอง 

ขั้นตอนที่ 5. เลือกราคาค่าน้ำที่ต้องการ

เมื่อเลือกรูปแบบการแทงบอลที่ต้องการเสร็จแล้ว สุดท้ายก็คือการเลือกราคาค่าน้ำ 

ราคาค่าน้ำคืออะไร? ราคาค่าน้ำก็คือ ตัวชี้วัดความได้เปรียบเสียเปรียบ และความต่างชั้นของทีมฟุตบอลแต่ละทีม และยังเป็นตัวกำหนดรางวัลที่คนแทงจะได้ตามอัตราความเสี่ยงที่ลงเดิมพัน หรือก็คือถ้าหากเรายิ่งเลือกราคาค่าน้ำที่มีโอกาสแทงถูกยาก รางวัลที่ได้ก็จะยิ่งสูงนั่นเอง ซึ่งโดยปกติแล้วราคาค่าน้ำจะมีด้วยกัน 2 แบบ หลัก ๆ คือ น้ำดำกับน้ำแดง

- น้ำดำ จะเป็นอัตราต่อรองตามปกติทั่ว ๆ ไป ใช้ตัวเลขสีดำเป็นสัญลักษณ์ วิธีคิดค่าน้ำดำ คือ สมมุติเว็บกำหนดค่าน้ำดำของบอลคู่ที่เราแทงเป็น 0.90 ถ้าหากเราแทงเงิน 100 บาท แล้วบอลเข้า เราก็จะได้เงิน 90 บาท

- น้ำแดง เป็นรูปแบบการต่อรองที่มีการประกันต้นทุน โดยค่าน้ำแดงจะมีเครื่องหมาย “ลบ” อยู่หน้าและมีตัวเลขเป็นสีแดงเสมอ วิธีคิดค่าน้ำแดง คือ สมมุติเว็บกำหนดค่าน้ำแดงของบอลคู่ที่เราแทงเป็น -0.90 หมายความถ้าเราแทง 100 บาท แล้วเราเสีย เราจะเสียเงินแค่ 90 บาท แต่ถ้าบอลเข้าเราจะได้เงิน 100 บาทเต็ม ๆ นั่นเอง